นามปากกา : Whoareyaoo
Smile Depression หรือภาวะซึมเศร้าที่ซ่อนอยู่ภายใต้รอยยิ้ม ถือว่าเป็นโรคยอดฮิตที่มีคนจำนวนไม่น้อยกำลังเผชิญ แม้ภายนอกจะดูร่าเริงแจ่มใส ยิ้มง่าย หัวเราะเก่ง แต่ลึก ๆ ภายในจิตใจกับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเศร้าหมอง
มีหลายคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในภาวะ Smile Depression ซึ่งก็จริงที่มันค่อนข้างจะสังเกตได้ยาก เพราะคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยแสดงอาการออกมา หรืออาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังเป็น ต่างจากภาวะซึมเศร้าที่มีบุคลิกแบบชัดเจน
จึงอยากให้ทุกคนลองสังเกตตัวเองว่าถ้ามีพฤติกรรม หรือลักษณะแปลก ๆ ดังนี้อาจมีโอกาสเป็น Smile Depression ได้ เช่น ร่าเริงเวลาเข้าสังคม พูดคุยหัวเราะได้ปกติแต่จริง ๆ แล้วกับรู้สึกหดหู่ หรือว่างเปล่า ชอบเก็บซ่อนความรู้สึกตัวเอง เวลาโกรธ ร้องไห้ก็ไม่ค่อยแสดงออกมา รวมถึงมีอาการเหนื่อยง่ายแบบไม่มีสาเหตุ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าเป็นภาวะยิ้มง่ายแต่ภายในแตกสลายก็ได้
แล้วทำไมถึงเป็น Smile Depression? หลายคนอาจตั้งข้อสงสัย แต่จริง ๆ แล้วคำตอบมันง่ายมาก เพราะเกิดจากความรู้สึกของตัวเอง ที่กลัวว่าคนอื่นจะเป็นห่วง, ไม่อยากให้ใครมองว่าเป็นคนอ่อนแอ, ชอบคาดหวัง และผิดหวังบ่อย ๆ หรือเคยชินกับการฝืนทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของตัวเอง
แม้ว่า Smile Depression จะไม่ดูเป็นอันตรายร้ายแรง แต่ถ้าหากไม่ได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสม ก็อาจทำให้อาการแย่ลงจากความเครียดสะสม และรุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกายตัวเองได้เช่นกัน
หากใครที่กำลังสับสน หรือคิดว่าตัวเองมีภาวะ Smile Depression แนะนำให้เริ่มต้นจากเขียนบันทึก เพื่อระบายความรู้สึก หรือพูดคุยกับคนที่สามารถไว้ใจได้ เช่น เพื่อนสนิท, ครอบครัว, คนรัก เพื่อหาวิธีป้องกันอาการต่าง ๆ เบื้องต้น แต่ถ้าต้องการรักษาให้หายขาดอาจลองเข้ารับคำปรึกษากับจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยา เพื่อวางแผนการดูแลตัวเองที่เหมาะสม
Smile Depression จริงๆ แล้วเป็นภาวะที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดภายในจิตใจ ต่อให้ยิ้มง่าย หัวเราะเก่งแค่ไหนก็มาจากการฝืนความรู้สึกของตัวเอง ซึ่งกุญแจสำคัญในการรักษาคือ “ตัวเราเอง” ที่ควรแสดงความรู้สึก หรือระบายความเศร้าให้กับคนที่สามารถไว้ใจได้ สุดท้ายนี้อยากบอกคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว อย่ากลัวการที่จะเปิดใจให้ใครสักคนหนึ่ง
