Digital-Detox
Digital-Detox

Digital Detox : พักหน้าจอ หนีความวุ่นวาย ไป Slow Life กัน

เรื่องโดย ภาษา Z ( Z language)

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนอาจรู้สึกว่าตัวเองถูก “จองจำ” อยู่กับหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ต บทความนี้จะชวนคุณมาทำความรู้จักกับ “Digital Detox” หรือการพักจากการใช้อุปกรณ์ดิจิทัล เพื่อหาความสงบและกลับไป Slow Life อย่างมีความสุข

คุณเคยไหม เมื่อตื่นเช้ามาสิ่งแรกที่ทำคือหยิบมือถือเช็คข่าวสาร เลื่อนฟีดโซเชียลฯ แบบไม่รู้ตัว หรือรู้สึกกระวนกระวายใจเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด จนต้องหาปลั๊กชาร์จแทบพลิกแผ่นดิน ถ้าคำตอบคือ “ใช่” คุณอาจกำลังเข้าข่าย “Digital Addiction” หรือการเสพติดดิจิทัล ซึ่ง Dr. Kimberly Young นักจิตวิทยาชื่อดัง ได้อธิบายว่า การเสพติดดิจิทัลมีลักษณะคล้ายกับการเสพติดสารเสพติดอื่นๆ คือ ทำให้เกิดอาการลงแดงเมื่อไม่ได้ใช้ และส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

Digital Detox จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของโลกออนไลน์ และกลับไปโฟกัสกับโลกแห่งความเป็นจริง การทำ Digital Detox ไม่ได้หมายความว่าเราต้องเลิกใช้อุปกรณ์ดิจิทัลไปเลย แต่เป็นการกำหนดขอบเขตการใช้งานให้เหมาะสม และสร้างสมดุลระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์ อาจเริ่มต้นจากการกำหนดเวลาในการใช้อุปกรณ์แต่ละวัน เช่น หลังอาหารเย็น หรือก่อนนอน งดการใช้มือถือในห้องนอน หรือในระหว่างทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ นอกจากนี้ การหากิจกรรมอื่นๆ ทำในช่วงที่ไม่ได้อยู่หน้าจอ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราไม่รู้สึกเบื่อหรือเหงา

Cal Newport ผู้เขียนหนังสือ “Digital Minimalism” แนะนำว่า เราควร “เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างตั้งใจ” แทนที่จะปล่อยให้เทคโนโลยีเข้ามาแทรกแซงชีวิตเราตลอดเวลา ซึ่งหมายถึง การพิจารณาว่าเทคโนโลยีใดที่ตอบโจทย์คุณค่าและความต้องการของเราอย่างแท้จริง และตัดเทคโนโลยีที่ไม่จำเป็นออกไป กิจกรรมที่เราสามารถทำได้ในช่วง Digital Detox เช่น การออกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ อ่านหนังสือเล่มโปรด ทำอาหาร ทำงานศิลปะ หรือพูดคุยกับคนในครอบครัวและเพื่อนฝูง การได้ทำกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้เราผ่อนคลาย ลดความเครียด และค้นพบความสุขที่แท้จริงจากการได้อยู่กับตัวเองและคนที่เรารัก นอกจากนี้ การฝึกสติ (Mindfulness) ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เรามีสมาธิกับปัจจุบัน และไม่จมอยู่กับความคิดฟุ้งซ่าน

สำหรับคนที่เริ่มต้นทำ Digital Detox อาจรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยากในช่วงแรก เพราะเราคุ้นชินกับการมีเทคโนโลยีอยู่รอบตัวตลอดเวลา แต่อย่าเพิ่งท้อ ลองเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ และค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาในการพักหน้าจอไปเรื่อยๆ เมื่อทำ Digital Detox อย่างสม่ำเสมอ มันจะส่งผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับที่ดีขึ้น สมาธิที่จดจ่อมากขึ้น ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น และความสุขที่แท้จริงจากการได้อยู่กับตัวเองและโลกใบนี้อย่างเต็มที่ มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของการลดการใช้โซเชียลมีเดีย เช่น การศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนพบว่า การพักจากการใช้ Facebook เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ช่วยลดความเครียดและเพิ่มความรู้สึกเชิงบวก

การทำ Digital Detox ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นการกลับไปสู่พื้นฐานของชีวิต การได้พักผ่อนจากหน้าจอ ช่วยให้เราได้ทบทวนตัวเอง ค้นหาความหมายของชีวิต และใช้ชีวิตในแบบที่ Slow Life อย่างมีความสุขมากขึ้น ลองสละเวลาสักนิด เพื่อทำ Digital Detox แล้วคุณจะพบว่า โลกแห่งความเป็นจริงนั้น มีอะไรให้ค้นหาอีกมากมาย

ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะมา “Unplug to Reconnect” กับตัวเอง ผู้คนรอบข้าง และโลกใบนี้อย่างแท้จริง Digital Detox อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่จะนำพาเราไปสู่ชีวิตที่มีความสุขและสมดุลอีกครั้ง