หลอดดูดน้ำเป็นสิ่งของใกล้ตัวที่เราต่างใช้กันในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นซื้อน้ำจากร้านชำ หรือซื้อเครื่องดื่มจากห้างชั้นนำ มักจะมีหลอดเป็นของแถมเสมอ ซึ่งเราอาจไม่รู้ตัวเลยก็ได้ว่าวันนึงใช้หลอดไปแล้วกี่อัน รวมถึงคนที่นิยมนำหลอดมาใช้ซ้ำโดยไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วมันส่งผลเสียต่อสุขภาพ วันนี้เราจึงรวบรวมข้อมูลดี ๆ มาฝากเพื่อน ๆ ทุกคน เกี่ยวกับเรื่องของหลอดว่า มีกี่ประเภท ช่วยอะไรได้บ้าง และส่งผลกับการใช้ชีวิตอย่างไร
หลอดดูดน้ำมีกี่ประเภท
หลอดดูดน้ำมีอยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละแบบจะมีการใช้วัสดุที่แตกต่างกันทำให้ออกมาในรูปแบบหลอด โดยหลอดที่ได้รับความนิยม และอาจคุ้นตามีดังต่อไปนี้
หลอดพลาสติก
หลอดพลาสติกมีหลายชนิด ทำมาจากพาสติกที่แตกต่างกันเช่น โพลีโพรพีลีน (Polypropylene) ที่สามารถรีไซเคิลได้ หลายประเทศทั่วโลกนิยมนำมาใช้ในการดื่มของเหลว แต่ด้วยปริมาณการใช้ที่สูง จึงส่งผลทำให้เกิดขยะจำนวนมาก จากสถิติมีการใช้พลาสติกทั่วโลกประมาณ 350 ล้านตัน แต่สามารถรีไซเคิลได้เพียง 9 %
หลอดสแตนเลส
หลอดสแตนเลส หรือหลอดอะลูมิเนียม แต่ละชนิดทำมาจากวัสดุที่แตกต่างกัน แม้เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่บางอันก็มีความทนทานสูง บางอันก็ละลายได้ง่าย ๆ จึงควรเลือกใช้แบบดี เพราะถ้าล้างทำความไม่สะอาดก็อาจส่งผลกับโรคทางเดินอาหารได้
หลอดแก้ว
หลอดแก้วจะมีลักษณะเด่นตรงความโปร่งใส ง่ายต่อการล้างทำความสะอาดคราบสกปกติ แถมยังมีความคงทนที่สูงกว่าหลอดปกติหลายเท่า
หลอดไม้ไผ่
หลอดไม้ไผ่ มีที่มาจากลำต้นของต้นไผ่ ซึ่งถูกนำมาแปรรูปเป็นทรงกระบอก ข้างในกลวง สามารถดูดน้ำได้เหมือนหลอดทั่วไป แต่มีคุณสมบัติตรงความแข็งแรง และย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
หลอดก้านผักบุ้ง
มักพบเห็นได้น้อย ถือว่าเป็นตัวเลือกของร้านอาหารที่นำมาใช้แทนหลอดพลาสติก เพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยนำผักบุ้งที่ถูกคัดพิเศษมาล้างทำความสะอาด แล้วตัดส่วนหัวกับส่วนท้ายออกไปประกอบอาหาร เหลือไว้เพียงตรงกลางที่นำมาทำเป็นหลอดดูดน้ำ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความคิดสร้างสรรค์ที่นำผักบุ้งมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์
หลอดตะไคร้
เป็นหลอดที่พบเห็นได้ตามหมู่เกาะติดทะเล โดยใช้แกนกลางของตะไคร้ที่มีขนาดคล้ายหลอดมาใช้ทดแทน ซึ่งมีจุดเด่นตรงความแข็งแรง และหอมกลิ่นสมุนไพร เวลาดื่มน้ำจะช่วยทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากนี้ยังสามารถไปทำเป็นปุ๋ยได้ต่อหลังจากใช้งานเสร็จ
หลอดกระดาษ
หลอดกระดาษนั้น ทำมาจากระดาษที่เคลือบทับด้วยไขขี้ผึ้งทำให้มีความทนทานในระดับหนึ่ง สามารถนำมาดูดน้ำได้ตามปกติ แต่ไม่ควรใช้ข้ามวันเนื่องจากหลอดกระดาษอาจเปลื่อยยุ่ยจนค่อย ๆ สลายเป็นขุ่ยเศษกระดาษ ถึงแม้จะส่งผลดีกับสิ่งแวดล้อม แต่หากสารในกระดาษเจือปนลงในของเหลวก็ก่อให้เกิดอันตรายได้
หลอดดูดน้ำมีประโยชน์อย่างไร
หลอดดูดน้ำทั้งก่อน – หลังใช้ไปแล้ว ก็ยังมีประโยชน์ที่หลายคนไม่รู้ สามารถช่วยให้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้นได้อย่างมากดังนี้
- สามารถพกพาได้ง่าย เนื่องจากมีขนาดเล็กกะทัดรัด และน้ำหนักเบา
- นิยมนำมาใช้ดื่มของเหลวที่มีความยาวใกล้เคียงหลอด
- ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางน้ำลายไปสู่ผู้อื่นได้ เช่น โรคเริม, โรคคางทูม
- ช่วยลดอาการเสียวฟันจากการดื่มน้ำที่ปากขวด
- เมื่อไม่ใช้แล้วสามารถนำมา DIY หรือประดิษฐ์เป็นของใช้อื่น ๆ ได้
- สามารถใช้กับบรรจุภัณฑ์ได้หลายชนิด
- สามารถนำมารีไซเคิล หรือแปรรูปได้ตามความเหมาะสม
- มีความทนทานต่อความชิ้น และสภาพอากาศสูง
หลอดมีอายุการใช้งานไหม
หลอดแต่ละประเภทจะมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยอายุการใช้งานของหลอด ดูดน้ำ 5 ชนิดที่ได้รับความนิยมมีดังตอไปนี้
- หลอดพลาสติก : มีอายุการใช้งาน 1 วัน และไม่ควรนำกลับมาใช้ใหม่
- หลอดกระดาษ : มีอายุการใช้งานประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
- หลอดไม้ไผ่ : สามารถใช้ได้ประมาณ 100 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้ของแต่ละบุคคล สามารถล้างทำความสะอาดแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้
- หลอดสแตนเลส : มีอายุใช้งาน 6 – 12 เดือน แต่ควรล้างทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้เสร็จ เพื่อป้องกันสนิม และคราบสกปรกติฝั่งลึก กรณีที่เริ่มได้กลิ่นสแตนเลสละเหยควรทิ้ง หรือเปลี่ยนใหม่ทันที
- หลอดแก้ว : มีอายุใช้งาน 6 – 12 เดือน แนะนำให้ล้างทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้เสร็จ หากมีรอยแตกร้าวควรทิ้ง หรือเปลี่ยนอันใหม่ทันที
สรุป
หลอดดูดน้ำแม้ไม่ใช้สิ่งสำคัญอะไร แต่ในชีวิตประจำวันก็ขาดไม่ได้อยู่ดี เราจึงควรรู้จักใช้หลอดให้เกิดประโยชน์มากว่าส่งผลเสีย โดยเลือกใช้หลอดที่เหมาะสมกับลักษณะของตัวเอง หากเป็นคนขี้เกียจก็ซื้อแบบใช้แล้วทิ้ง แต่ถ้าเป็นคนประหยัดก็ซื้อที่มีฟังก์ชั่นแบบล้างแล้วนำกลับมาใช้ซ้ำได้ใหม่ เห็นไหมว่าหลอดที่มีขนาดเล็กจิ๋วก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตได้เหมือนกัน